TISCO กำไรไตรมาสแรกลดเล็กน้อย ประกาศปันผลหุ้นละ 7.75 บาท

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลการดำเนินงานรวมของบริษัทงวดไตรมาส 1 ปี 2566 กำไรสุทธิจำนวน 1,792.58 ล้านบาท ลดลง 2.91 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.2 เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2565

สาเหตุหลักมาจากต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดและการปรับอัตราเงินนำส่งจากสถาบันการเงินเข้ากองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) กลับสู่ระดับปกติที่ร้อยละ 0.46 ต่อปี ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น ตามนโยบายการลงทุนระยะยาวเพื่อการขยายตัวของธุรกิจ

ในส่วนของรายได้รวมจากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 5.1จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น15.4% ตามการเติบโตของเงินให้สินเชื่อ พร้อมกับการรับรู้ผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่ายุติธรรมผ่านงบกำไรขาดทุน (FVTPL) ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักอ่อนตัวลง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนที่ชะลอตัวจากผลกระทบของภาวะตลาดทุนทั่วโลกที่ผันผวน ทั้งรายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 13.8 และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนที่ลดลงร้อยละ 0.5

นอกจากนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์อ่อนตัวลงร้อยละ 1.1 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับการให้สินเชื่อ สืบเนื่องมาจากการปรับเกณฑ์ค่าธรรมเนียมของทางการ อย่างไรก็ดี รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจนายหน้าประกันภัยยังคงฟื้นตัวได้สอดคล้องกับปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

TISCO กำไรสุทธิปี 65 ที่ 7,221 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4%

 TISCO กำไรไตรมาสแรกลดเล็กน้อย ประกาศปันผลหุ้นละ 7.75 บาท

“ทิสโก้” คาดหุ้นไทยแตะ 1,720 จุด แนะ 9 หุ้นกำไร-ปันผลเด่น

สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) อยู่ในระดับต่่ำที่จ านวน 125.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 0.2 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เนื่องมาจากบริษัทยังคงสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต (NPLs) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากสิ้นปี 2565 มาอยู่ที่ร้อยละ 2.13 แต่เป็นไปตามกลยุทธ์การขยาย สินเชื่อไปในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูง ทั้งนี้ เงินสำรองค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตของบริษัทยังคงอยู่ในระดับสูง และเพียงพอเพื่อรองรับความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ รอบด้าน

กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic earnings per share) สำหรับงวดไตรมาส 1 ปี 2566เท่ากับ 2.24 บาทต่อหุ้น ทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปีก่อนหน้า แต่ลดลงจาก 2.26 บาทต่อหุ้นในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย(ROAE) อยู่ที่ร้อยละ 16.4

นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปี 2566 กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 1,793 ล้านบาท ถือเป็นระดับทรงตัวหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยธุรกิจสินเชื่อยังคงเติบโตได้ต่อเนื่องที่ระดับ 0.5% จากการขยายสาขา “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่กระจายโอกาสออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ สร้างการเติบโตให้แก่สินเชื่อจำนำทะเบียนแก่กลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้น รวมถึงสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่ยังคงเติบโตได้ดีตามภาคเศรษฐกิจที่กลับมาขยายตัว หนุนให้รายได้ดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจนายหน้าประกันภัยเติบโตไปพร้อมกับการปล่อยสินเชื่อใหม่

อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินปรับตัวสูงขึ้น เป็นไปตามทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และการนำส่งเงินกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (FIDF) ที่กลับสู่อัตราเดิมที่ 0.46% ต่อปี จากที่เคยปรับลดลงเหลือ 0.23% ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามการเติบโตของสินเชื่อ แต่ถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี พร้อมด้วยเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) สูงถึง 248% ซึ่งเพียงพอต่อการรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ในระดับแข็งแกร่งถึง 23.5%

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นยังมีมติจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 7.75 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,205 บาท ในเดือนพ.ค.นี้

“เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนเป็นสำคัญ ประกอบกับแรงกดดันจากเงินเฟ้อที่เริ่มชะลอตัวลง ดังนั้น ในระยะข้างหน้า กลุ่มทิสโก้ยังคงเดินหน้าขยายการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจด้วยความมั่นคงและมีคุณภาพ โดยรักษาความแข็งแกร่งในการบริหารจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม และดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เพื่อความยั่งยืน ตามหลักการ ESG (Environment, Social, Governance) ควบคู่กับการพัฒนา Digital Platform เพื่อเพิ่มความสะดวกในการให้บริการและเพิ่มโอกาสในการแนะนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สร้างคุณค่าแก่ลูกค้า” นายศักดิ์ชัยกล่าว

ราคาหุ้น TISCO ปิดตลาดวานนี้(18 เม.ย.) ลดลง 0.50 บาท หรือ 0.49% อยู่ที่ 101.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 802.32 บาท

By admin

Related Post